การ์ตูนทำเงินตลอดจากค่ายดรีมเวิรค์

            วันนี้เราก็จะมาลื้อฟื้นความหลังของ การ์ตูนทำเงินตลอดจากค่ายดรีมเวิรค์ กันค่ะ ว่ามีเรื่องไหนที่ทำเงินให้กับค่ายนี้ตลอดกาล ชื่อนี้หลายๆคนก็น่าจะเคยได้ยินผ่านหูแล้วก็เคยเห็นโลโก้ผ่านตากันมาบ้างแล้วนะคะ แต่ก่อนที่เราจะมาติดตามความน่าสนใจ แอดมินก็ขอฝากให้ไปติดตาม Baymax กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยนะคะ

🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷

การ์ตูนทำเงินตลอดจากค่ายดรีมเวิรค์ DreamWorks

            แอดมินก็ต้องบอกเลยนะคะ ว่ามีอนิเมชั่นดังๆ แล้วก็อนิเมชั่นทำเงินอีกหลายเรื่อง ที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาจากสตูดิโอนี้ เรามาดูกันดีกว่าค่ะ ว่าอนิเมชั่นทำเงินจากค่ายรี้ ที่เป็นการ์ตูนในดวงใจของใครหลายๆคนจะมีเรื่องไหนกันบ้าง ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลยค่ะ เรื่องแรกที่แอดมินจะมาพูดถึงเลยก็คือ Puss in Boots 2011 นั่นเองค่ะ เรื่องนี้ก็เป็นการ์ตูนทำเงินเรื่องแรกของสตูดิโอนี้เลยค่ะ กับเรื่องราวของเจ้าเหมียว

ยอดนักดาบและรองเท้าบูธคู่ใหญ่ เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นอีกหนึ่งเรื่อง จากตัวละครสมทบจากหนังเรื่องเช็ค กลายมามีหนังเดีวเป็นของตัวเองค่ะ พร้อมกับการออกผจญภัยครั้งสำคัญ เมื่อพูสต้องร่วมมือกับแมวเหมียวเจ้าเล่ห์ และพ่อหนุ่มหน้าไข่ เพื่อนซี้ตั้งแต่วัยเยาว์ พวกเค้าจะต้องออกตามขุมสมบัติอันล้ำค่าที่อยู่บนท้องฟ้า เรื่องนี้เข้าฉายในช่วงปี 2011 ทำรายได้ไปถึง 554.9 ล้านดอลล่าร์เลยล่ะค่ะ

 โดยทำรายได้ในประเทศสหรัฐอเมริกาไปทั้งหมด 149.2 ดอลล่า และยังทำรายได้ในต่างประเทศทั่วโลกไปกว่า 405.7 ล้านดอลล่าเลยล่ะค่ะ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องแรกในค่ายที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเลยล่ะค่ะ เพราะว่าเรื่องนี้ใช้งบประมาณมนการสร้างเพียงแค่ 130 ล้านดอลล่าเท่านั้น ส่วนเรื่องต่อมาที่แอดมินจะพูดถึงก็คือเรื่อง The Croods 2013 เรื่องนี้เป็นการ์ตูนอนิเมชั่นการผจญภัยในยุคดึกดำบรรพ์ค่ะ

กับเรื่องราวของครอบครัวแรกในโลก ที่ต้องออกผจญภัย เมื่อถ้ำที่พวกเค้าหลบซ่อนตัวจากภัยอันตราย ถูกทลายลงไป ครอบครัวนี้เลยจำเป็นที่จะต้องออกเดินทางครั้งสำคัญ และเป็นครั้งแรกของพวกเค้า พร้อมกับมหาวิบัติการเคลื่อนตัวของเปลือกโลก ที่อาจจะทำให้มนุษย์จะต้องสูญพันธุ์ปึ เรื่องนี้เข้าฉายในช่วงปี 2013 ทำรายได้ไปสูงถึง 587.2 ล้านดอลล่าเลยล่ะค่ะ โดยทำรายได้ในประเทศสหรัฐอเมริกา

ไปกว่า 187.2 ล้านดอลล่าเลยล่ะค่ะ และจากตลาดต่างประเทศทั่วโลกกว่า 400 ล้านดอลล่าเลยล่ะค่ะ และใช้งบประมาณการสร้างไปทั้งหมด 135 ล้านดอลล่าค่ะ

🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷 🌷