Starbrand ผู้ครองพลังแห่งดาวเคราะห์

วันนี้แอดมินก็จะพาทุกท่านมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งตัวละครอย่าง Starbrand ผู้ครองพลังแห่งดาวเคราะห์ หนึ่งในเซตอเวนเจอร์เมื่อประมาณหนึ่งล้านปีก่อนผู้ครอบครองพลังเหนือจินตนาการจากพลังแห่งดวงดาว เค้าคือจอมพลังสตาร์แบรนด์ แห่งทีมอเวนเจอร์รุ่นแรก ผู้ที่ต่อกรกับเซเลเชียล พร้อมกับโอดินและพวกพ้องในยุคดึกดำบรรพ์ ซึ่งประวัติของคนอื่นๆก็จะมีแค่โกสต์ไรเดอร์และไอร่อนฟิชเท่านั้น แต่ก่อนที่เราจะมาทำความรู้จักกับเค้าเหล่านี้ให้มากขึ้น แอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม GOOSE กันด้วยนะคะ แล้วในวันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ เบทฟิก68 ที่สนับสนุนบทความของเราในวันนี้ด้วยค่ะ

จริงๆแล้วสตาร์แบรนด์นั้น ชื่อของสัญลักษณ์รูปดาวระเบิดที่มอบพลังให้แก่ผู้ครอบครองอย่างไร้ขีดจำกัด อาจจะได้เรียกว่าข้อจำกัดของวันนั้น จะอยู่ที่พลังจินตนาการของตัวผู้ใช้เท่านั้นเลย ต้นกำเนิดของมันเองก็ถูกบอกเล่าในเรื่องราวนี้ด้วยเหมือนกันย้อนเวลาไปเมื่อ 66 ล้านปีที่แล้ว ภูเขาไฟของดาวเคราะห์น้อยดวงหนึ่ง ได้เกิดระเบิดขึ้นถึง 3 ครั้งทำให้สะเก็ดหินหลอมเหลวพุ่งกระจัดกระจายตกลงไปยังดาว

ทุกดวงในระบบสุริยะ เผาไม่ร้อนแรงยิ่งกว่าอุณหภูมิของดวงอาทิตย์ คลื่นอัคคีแพร่กระจายไปทั่วโลก ทำร้ายทุกอย่างที่ขวางหน้า และสิ่งที่ตามมาก็คือสิ่งมีชีวิตบนโลกนั้น ต่างพากันล้มตายไปเกือบหมด ซึ่งสาเหตุนั้นไม่ใช่ไฟแต่เป็นเขม่าควัน ที่ลอยปกคลุมชั้นบรรยากาศ และผลพิษที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตบนโลกอย่างมหาศาลจริงๆแล้ว อุกกาบาตโลกดังกล่าวนั้น ไม่ได้ตกลงมาด้วยความบังเอิญหรอกนะคะ

แต่มันเป็นความจงใจที่จะทำให้โลกรู้สึกถูกคุกคาม จนปลุกพลังที่จะใช้ป้องกันตัวเองให้ตื่นขึ้น สัญลักษณ์แห่งดวงดาวปรากฏขึ้น บนพื้นและต้องการผู้ครอบครองพลัง เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากดาวอันไกลโพ้น และสิ่งมีชีวิตที่สตาร์แบนเลือกก็คือทีเล็กที่นอนตายอยู่ ใจกลางอุกกาบาตนับเป็นการถือกำเนิดผู้ครอบครองพลังคอสมิกคนแรกของโลก และเจ้าตัวเล็กตัวนี้นี่แหละ ที่กลายเป็นฮีโร่คอยยืนหยัดต่อสู้

กับผู้รุกรานจากต่างดาว แม้กระทั่งพวกคลี ที่ต้นกำเนิดของพวกอินฮิลแมนก็ไม่เว้น เมื่อยุคสมัยดังกล่าวจบลง เวลาก็ผ่านไป 65 ล้านปีแล้ว เข้าสู่ยุคยุคที่มนุษย์ยุคหิน เริ่มแพร่กระจายอยู่ทั่วโลก ชายสองคนกำลังเดินเช็คผลไม้ที่พวกเขาเรียกมันว่าผลโคลน เพราะถ้าสูดดมเข้าไปแล้ว จะมีน้ำมูกไหลออกมา ความจริงแล้วของสองคนนี้ แอดมินไม่รู้จะอ่านว่าอะไรจริงๆค่ะ เพราะเป็นการเขียนที่ไม่มีตัวสะกดเลย เอาเป็นว่าจะเรียก

เขาว่าบรู๊ค และอีกตัวละครนึงจะเรียกว่าวินแล้วกัน ประเด็นคือตอนนี้เจ้าผลโคลนที่ว่านั้น มันกำลังจะเหี่ยวเฉา เพราะพื้นดินมันแห้งแล้งเหลือเกิน พวกเขาจึงปรึกษาหารือกันว่า จะไปหาที่ปลูกที่ใหม่ที่ไหนดี วินจึงชวนให้ไปปลูกแถวถ้ำน้ำตก ส่วนบุ๊คก็ไม่อยากไป เพราะครั้งที่ไปล่าสุดเค้าได้ยินเสียงแปลกๆอยู่แถวนั้น แม้จะไม่อยากไปแต่พอโดนโน้มน้าวมากๆเข้า บุ๊คก็ต้องยอม คือมนุษย์ถ้ำสองคนนี้ ออกจะต่างจากคนอื่น

ในเผ่าอยู่หลายเรื่องเช่น การออกมาใช้ชีวิตอยู่ในป่า ทำสวนเก็บผลไม้กิน ในขณะที่เพื่อนร่วมเผ่า ยังรักที่จะอยู่ในถ้ำ แถมความรักของพวกเขาก็ยังเป็นแบบชายรักชายอีกด้วย เรียกว่าทั้งคู่เนี่ย เป็นส่วนเติมเต็มชีวิตของกันและกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้จึงอยู่ในสถานะของคนรัก ไม่ใช่เพื่อนสนิท อย่างที่หลายคนเข้าใจ เมื่อไปถึงถ้ำน้ำตกทั้งคู่ก็จัดแจงพรวนดิน จนไม่สังเกตว่ามีใคร กำลังเข้ามาและเมื่อรู้รู้ตัว

เค้าก็สั่งให้วินเนี่ย คอยหลบอยู่ด้านหลัง เพราะผู้บุกรุกที่โผล่มาก็คือพวกดีเวี่ยน หนึ่งไร่เผ่าพันธุ์โบราณที่เซเลเชียล สร้างขึ้นมาซึ่งเหตุผลที่พวกเขามาที่นี่ ก็คือพวกมันต้องการที่จะยึดส่วนที่บุ๊คกับวิน ช่วยกันปลูกตอนนั้นรู้ก็มีการต่อว่าวินเล็กน้อยว่า เค้าบอกแล้วว่าไม่อยากมาที่นี่ เพราะคราวที่แล้ว เค้าก็ได้ยินเสียงพวกมันอยู่ คือพวกเนี่ยมันเป็นเผ่าพันธุ์ที่ไปหลบซ่อนอยู่ใต้พื้นโลก และพัฒนาอารยธรรมอยู่ที่นั่นบางส่วน

และส่วนใหญ่ก็มักจะข่มเหงรังแกมนุษย์อยู่เป็นประจำ แต่ถึงจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่เหนือกว่าแต่บุ๊ก็ขอสู้ยิบตาเพื่อพิทักษ์ต้นไม้ที่เป็นของมีค่าของเขาเอาไว้ ซึ่งวิธีต่อสู้ของเขาก็ไม่ได้วิเศษอะไรมากไปกว่าการดีดลูกไม้เข้าใส่ และใช้กระบองหนามเข้าโจมตีหลังจากต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตาย ในที่สุดพวกดีเวี่ยน ก็ถอนกำลัง ถึงวินและบุ๊คจะมีจำนวนน้อยกว่า และทั้งคู่ก็รู้ดิว่า พวกเขาควรจะทิ้งสถานที่แห่งนี้แตก ไอ้การทำสวนเนี่ย

มันคือสิ่งที่วินเฝ้าฝันมาตลอด ดังนั้นพวกเขาจึงตั้งใจจะปักหลักต่อสู้กับพวกมัน เพราะอย่างน้อยพวกดีเวี่ยน ก็ไม่เชี่ยวชาญเรื่องภูมิประเทศ ทำให้รู้กับวินมีข้อได้เปรียบตรงนี้ ซึ่งในระหว่างที่เตรียมการตั้งรับ อยู่นั่นเอง วินก็ได้รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้น คือตอนแรกมันก็นึกว่าเป็นแผ่นดินไหว แต่ที่ไหนได้มันกลับเป็นยานขุดเจาะของพวกดีเวี่ยนซะอย่างอย่างนั้น ถึงแม้วินจะรู้อยู่แก่ใจว่าเทคโนโลยีของพวกมันล้ำ

และพวกเขาก็เคยลองจินตนาการถึงมันอยู่บ่อยๆ แต่ครั้งนี้สิ่งที่มันได้เจอกับเป็นเรื่องที่อลังการเกินไป แผนตั้งที่วางเอาไว้อย่างดิบดี เจอบุกมาเซอร์ไพรซ์แบบนี้ ก็ไม่รู้จะมนุษย์ยุคหิน จะต้องรับมือยังไง และที่แย่กว่านั้นก็คือ การโจมตีดันทำให้พื้นทรุด จนทั้งคู่ร่วงลงไปในหุบเหว เมื่อตกถึงพื้นวินได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยแล้วเขาก็พยามจะเรียกให้บุ๊ครีบหนี เพราะพวกกำลังจะตามมา แต่ข่าวร้ายก็คือบุ๊คคนรักของเค้าถูกกองหิน

ทับจนเสียชีวิต และตอนนั้นสายตาของวินมีเพียงแค่บุ๊คที่อยู่เบื้องหน้า และเค้าก็ไม่ได้สนใจซากของทีเร็ค ที่นอนตายอยู่ตรงนี้มา 65 ล้านปีแล้ว นี่อาจจะเป็นโชคชะตา ที่ทำให้หัวใจของวิน เรียกร้องที่จะออกจากถ้ำ และมาอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อเวลานี้เพื่อเวลาที่เขาจะได้พบกับพลังนี้ เมื่อสัมผัสเข้ากับสตาร์แบรนด์โดยบังเอิญ รูปร่างของวินจากที่เคยผอมเพรียวบาง ก็ได้กลายเป็นมนุษย์ร่างยักษ์ เหมือนกับฮักไม่มีผิด แล้วพอพวกนี้

ตามมาเห็นพวกมันก็พูดว่าพวกเราไม่เคยค้นพบสถานที่แห่งนี้มาก่อน และนั่นก็คือขุมพลัง ที่ใช้เป็นสุดยอดอาวุธ และพวกเราไปแย่งมาเพื่ออาณาจักรดีเวียนในตอนนั้น พวกเขาไม่รู้เลยว่าวินที่อยู่ตรงหน้านั้น ไม่ใช่คนอ่อนแอ ที่รักสงบอีกต่อไปแล้ว ใจของเค้านั้นมีแต่ความโกรธแค้น คิดไปต่างๆนานาว่าจริงๆแล้ว มันควรจะเป็นบุ๊คมากกว่าที่ได้ครอบครองพลังนี้ เส้นเลือดในร่างกายของเขาร้อนผ่าว และสิ่งที่เขาอยากจะเห็น

ที่สุดในตอนนี้ก็คือสร้างของพวกนี้ดี ที่ถูกทำลายจนกลายเป็นเท่าธุลี นี่คือการกำเนิดของซุปเปอร์ฮีโร่ ดึกดำบรรพ์ ชื่อตราบชายที่ได้รับชีวิตใหม่พร้อมกับสูญเสียชีวิตเดิมๆ ไปในเวลาเดียวกัน และกำลังอันเหนือจินตนาการ แผร่ออกมาจากทุกรูขุมขน และเวลานั้นไม่ว่าใครๆก็ไม่ใช่คู่มือของสตาร์แบนอีกต่อไปแล้ว

แลัวสุดท้ายนี้แอดมินก็ต้องขอฝากเว็บไซต์อ่าน การ์ตูน ที่ครบรสปีให้ติดตามกันแบบจุใจไปเลยค่ะ